ห้องปลอดฝุ่น

From AirKM
Revision as of 19:02, 13 June 2022 by Kamonwit (talk | contribs)
(diff) ← Older revision | Latest revision (diff) | Newer revision → (diff)
Jump to navigation Jump to search

ห้องปลอดฝุ่น[edit]

ห้องปลอดฝุ่น (Clean Air Shelter หรือ Smog Safety Zone) เป็นสถานที่หรือห้องที่จัดเตรียมเพื่อลดการสัมผัสฝุ่นละออง ทั้งฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) และฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เสี่ยง โดยต้องมีค่าฝุ่นละอองเฉลี่ย 24 ชั่วโมงในบรรยากาศไม่เกินมาตรฐาน

หลักการในการสร้างห้องปลอดฝุ่น[edit]

หลักการในการทำห้องปลอดฝุ่นโดยสรุปมีอยู่ 3 ข้อด้วยกัน ได้แก่

“กั้น” ฝุ่นข้างนอกไม่ให้เข้ามาในห้องโดยการอุดรอยรั่วของห้อง

“กรอง” ฝุ่นในห้องโดยใช้เครื่องกรองอากาศ

“ดัน” ฝุ่นออกไปจากห้องโดยการนำอากาศจากข้างนอกห้องที่กรองแล้วเข้ามาในห้อง

การป้องกันฝุ่นจากภายนอก[edit]

หลักการของการป้องกันฝุ่นจากภายนอกคือการอุดรอยรั่วของห้องให้สนิท เพื่อไม่ให้ฝุ่นซึมผ่านเข้ามาในบริเวณห้องได้ ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญเนื่องจากเป็นขั้นตอนที่ช่วยให้การกรองฝุ่นและการดันฝุ่นมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยขั้นตอนการดำเนินงานมีดังนี้

  • ปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิดป้องกันไม่ให้อากาศภายนอกเข้าไปในห้อง
  • ตรวจสอบรอยรั่วของอาคาร หากพบให้ดำเนินการปิดช่องหรือรูที่อากาศภาด้ยนอกเข้าอาคารด้วยวัสดุปิดผนึก เช่น ซีลประตู หรือเทปปิดร่องประตู หรือหน้าต่าง เป็นต้น

วัสดุสำหรับปิดรอยรั่วสามารถปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดคือ แบบกึ่งถาวรและถาวร

แบบกึ่งถาวร

วัสดุชนิดนี้ใช้ปิดช่องรอยรั่วต่าง ๆ ภายในห้องปลอดฝุ่นสามารถหาได้ง่าย ราคาถูก และใช้ปิดรอยรั่วของอาคารในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อป้องกันอากาศผ่านเข้ามาในห้อง เมื่อหมดช่วงที่ฝุ่นละอองสูงสามารถถอดออกได้ เช่น พลาสติกใส เทปใส เทปกาวสองหน้า ปืนกาว ฟิวเจอร์บอร์ด เทปอลูมิเนียม เป็นต้น

แบบกึ่งถาวร

วัสดุชนิดนี้ใช้ปิดช่องรอยรั่วต่าง ๆ ภายในห้องปลอดฝุ่น สามารถปิดรอยรั่วของอาคารได้แบบถาวร รวมทั้งเพิ่มความสวยงานของห้อง เช่น แผ่นปิดรอยต่อเอนกประสงค์ ซิลิโคร แผ่นยิปซัม เทปติดช่องว่างประตู แผ่นปิดช่องลมอากาศ แผ่นฟอยล์อลูมิเนียม เป็นต้น

การกรองอากาศ[edit]

ระบบกรองอากาศ เป็นวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการลดฝุ่นละอองในห้องหลังจากการอุดรอยรั่วภายในห้อง และใช้เครื่องกรองอากาศเพื่อลดฝุ่นภายในห้อง โดยเลือกเครื่องกรองอากาศที่มีขายตามท้องตลาด หรือเครื่องกรองอากาศประดิษฐ์ก็ได้ มีขั้นตอนการดำเนินการดังนี้

  • หลังจากที่อุดรอยรั่ว ปิดช่องประตูหน้าต่างเสร็จแล้ว ให้ติดตั้งระบบฟอกอากาศเข้าไปในห้อง โดยคำนึงถึง ประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศให้มีขนาดเหมาะสม กับขนาดห้อง
  • ควรบำรุงรักษาเครื่องกรองอากาศ โดยเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพ เช่น แผ่นกรอง หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคู่มือหรือสังเกตจากแผ่นกรอง หากมีสะสมของฝุ่นละอองปริมาณมากควรทำการเปลี่ยน

การดันฝุ่นออกจากห้อง[edit]

เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูง ดำเนินการหลังจากการอุดรอยรั่วภายในห้อง โดยห้องปลอดฝุ่น ในรูปแบบความดันอากาศพร้อมระบบฟอกอากาศ สามารถดำเนินการได้โดยสร้างความกัน แตกต่างระหว่างห้อง โดยภายในห้องต้องไม่มีรอยรั่วมากเกินไปและไม่มีช่องเปิดอื่น ๆ หากต้องการให้พื้นที่มี ความดันมากหรือเป็นบวกจะมีการเติมอากาศเข้าไปในห้องเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนอากาศ

ดังนั้น การทำให้ห้องเป็นระบบความดันอากาศพร้อมระบบกรองอากาศ (Positives pressure) จึงควรเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เหมาะสมและปลอดภัย ทั้งการเลือกใช้พัดลมระบายอากาศ (Blower) และ เครื่องกรองอากาศกรณีใช้แผ่นกรองอากาศควรเลือก MERV 11 ข้ึนไป หรือเลือกชนิด High-efficiency particulate air (HEPA) ซึ่งเป็นแผ่นกรองที่มีประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคขนาดเล็กมาก (Ultrafine Particles) อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ควรได้รับคำแนะนาจากวิศวกรหรือช่างที่มีความชำ นาญ

การเลือกห้องในการจัดทำห้องปลอดฝุ่น[edit]

ในการจัดทำห้องปลอดฝุ่นนั้น ควรมีการเลือกห้องที่เหมาะสมสำหรับการจัดทำ หากเลือกห้องที่ไม่เหมาะสมแล้ว จะทำให้ห้องปลอดฝุ่นไม่มีประสิทธิภาพหรือมีประสิทธิภาพต่ำ วิธีการเลือกห้องสามารถำได้ด้วยการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ชนิดตามตารางต่อไปนี้

ระดับความเสี่ยง รายละเอียด
เขียว จัดการได้ และควบคุมได้ พื้นที่ที่สามารถควบคุมการเข้าออกได้ เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน ห้องประชุม
เหลือง จัดการได้ แต่ควบคุมไม่ได้ พื้นที่ที่สามารถควบคุมการเข้า-ออกได้บ้าง มีบางพื้นที่ต่อเชื่อมกับพื้นที่ที่ควบคุมได้ยาก เช่น ห้องน้ำ โถงบันได้ ทางขึ้นลงอาคาร พื้นที่ทางเข้าอาคาร
แดง จัดการไม่ได้ และควบคุมไม่ได้ นที่ที่ไม่สามารถควบคุมการเข้า-ออกอาคารได้เลย เช่น โรงอาหาร โรงจอดรถ อาคารที่มีเพดานสูงมาก

ห้องที่เป็นโซนสีเขียวนั้น เหมาะสำหรับการทำห้องปลอดฝุ่นมากที่สุด ส่วนโซนสีเหลืองนั้นยังอยู่ในเกณฑ์ที่คุ้มค่าต่อการทำห้องปลอดฝุ่น แต่โซนสีแดงนั้นไม่เหมาะอย่างยิ่งแก่การทำห้องปลอดฝุ่น

ข้อควรระวังเพิ่มเติม[edit]

การทำห้องปลอดฝุ่น การระบายอากาศถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากการระบายไม่ดีจะเป็นแหล่งสะสมความร้อนและฝุ่นละออง รวมถึงการสะสมของคาร์บอนไดออกไซด์ภายในห้อง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ดังนั้น จึงควรมีการระบายอากาศออกจากห้องหรือการจัดการการระบายอากาศออกจากห้องหรือพื้นที่เพื่อควบคุมความร้อน ความชื้นให้อยู่ในระดับที่จะรู้สึกสบายได้ และให้อากาศบริสุทธิ์เข้ามาเข้ามาแทนที่ได้ โดยอาจใช้การเปิดหน้าต่าง ประตูหรือเปิดพัดลมระบายอากาศในบางช่วงเวลาเพื่อลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่จะเกิดขึ้น

สื่อเพิ่มเติม[edit]

การจัดทำห้องปลอดฝุ่น