มาตรการป้องกันตัวจากฝุ่นควัน: Difference between revisions
Line 96: | Line 96: | ||
===แนวทางการปฏิบัติสําหรับผู้ปกครอง=== | ===แนวทางการปฏิบัติสําหรับผู้ปกครอง=== | ||
#ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลควรติดตามสถานการณ์ PM2.5 ในแอปพลิเคชัน Air4Thai หรือติดตามข่าวสารตาม ช่องทางต่าง ๆ | #ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลควรติดตามสถานการณ์ [[PM2.5|PM2.5]] ในแอปพลิเคชัน Air4Thai หรือติดตามข่าวสารตาม ช่องทางต่าง ๆ | ||
#ควรดูแลเด็กให้หลีกี่ยงการทํากิจกรรมนอกบ้านในช่วงท่ี PM2.5 อยู่ในระดับตั้งแต่สีเขียว (26 - 37 มคก./ลบ.ม.) ขึ้นไป | #ควรดูแลเด็กให้หลีกี่ยงการทํากิจกรรมนอกบ้านในช่วงท่ี [[PM2.5|PM2.5]] อยู่ในระดับตั้งแต่สีเขียว (26 - 37 มคก./ลบ.ม.) ขึ้นไป หากจําเป็นให้ใส่[[หน้ากากป้องกันฝุ่น|หน้ากากอนามัย]]ป้องกันและอยู่นอกอาคารเท่าท่ีจําเป็น | ||
# | #จัดหา[[หน้ากากป้องกันฝุ่น|หน้ากากอนามัย]]ที่ป้องกันฝุ่น [[PM2.5|PM2.5]] ท่ีเหมาะสําหรับเด็กไว้ท่ีบ้าน | ||
# | #ให้เด็กสวม[[หน้ากากป้องกันฝุ่น|หน้ากากอนามัย]]หากต้องออกนอกอาคารขณะท่ีเดินทางเป็นต้น | ||
#ควรให้เด็กดื่มน้ําสะอาดให้เพียงพอ 8-10 แก้วต่อวัน | #ควรให้เด็กดื่มน้ําสะอาดให้เพียงพอ 8-10 แก้วต่อวัน | ||
# | #ควร[[ห้องปลอดฝุ่น|ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด]]และเปิดพัดลมให้อากาศหมุนเวียน | ||
# | #ปลูกต้นไม้บริเวณบ้านเพื่อดัก[[PM2.5|ฝุ่นละออง]]และ[[มลภาวะทางอากาศ|มลพิษทางอากาศ]] | ||
#ลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิด PM2.5 เช่น จุดธูป เผากระดาษเงินกระดาษทอง ปิ้งย่างที่ทําให้เกิดควัน การเผาใบไม้ เผาขยะ เป็นต้น | #ลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิด [[PM2.5|PM2.5]] เช่น จุดธูป เผากระดาษเงินกระดาษทอง ปิ้งย่างที่ทําให้เกิดควัน การเผาใบไม้ เผาขยะ เป็นต้น | ||
#ไม่จอดรถและติดเครื่องยนต์เป็นเวลานานในบริเวณบ้าน | #ไม่จอดรถและติดเครื่องยนต์เป็นเวลานานในบริเวณบ้าน | ||
#สังเกตอาการบุตรหลาน โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจําตัวอย่างใกล้ชิด หากมีอาการไอจามผิดปกติ น้ํามูกไหล หายใจลําบาก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที | #สังเกตอาการบุตรหลาน โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจําตัวอย่างใกล้ชิด หากมีอาการไอจามผิดปกติ น้ํามูกไหล หายใจลําบาก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที |
Revision as of 14:33, 14 June 2022
มาตรการป้องกันตัวจากฝุ่น
กรมอนามัยได้ประกาศมาตรการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็กในบรรยากาศ โดยแบ่งตามสีไว้ดังนี้
ระดับ PM2.5 เฉลี่ย24 ชม. (มคก./ลบม.) | ระดับ | สีที่ใช้ | คำแนะนำในการปฏิบัติตนสำหรับประชาชน | |
---|---|---|---|---|
ประชาชนทั่วไป | เด็กเล็ก หญิงตั้งครรถ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว | |||
0 - 25 | ดีมาก | ฟ้า | ทำกิจกรรมกลางแจ้งและท่องเที่ยวได้ตามปกติ | ทำกิจกรรมกลางแจ้งและท่องเที่ยวได้ตามปกติ |
26 - 37 | ดี | เขียว | ทำกิจกรรมกลางแจ้งและท่องเที่ยวได้ตามปกติ |
|
38 - 50 | ปานกลาง | เหลือง |
|
|
51 - 90 | เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ | ส้ม |
|
|
91 ขึ้นไป | มีผลกระทบต่อสุขภาพ | แดง |
|
|
มาตรการการเตรียมความพร้อมระหว่างเปิดภาคเรียนในระยะก่อนเกิดปัญหาฝุ่นควัน
องค์การเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติและองค์กรภาคี ได้เสนอกรอบแนวทาง 6 มิติ เพื่อการเตรียมความ พร้อมก่อนเปิดภาคเรียนของสถานศึกษา ได้แก่ การดําเนินงานเพื่อความปลอดภัย การเรียนรู้ การครอบคลุมถึง เด็กด้อยโอกาส สวัสดิภาพและการคุ้มครอง นโยบาย และการบริหารการเงิน จึงมีแนวคิดในการสร้างความ เชื่อมโยงกับมาตรการการเตรียมความพร้อมระหว่างเปิดภาคเรียนในระยะเตรียมการก่อนเกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน อันจะเป็นการวางแผนที่จะช่วยสร้างเสริมความเข้มแข็งด้านการคุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยของนักเรียน นักศึกษา
ความเชื่อมโยง 6 มิติกับมาตรการการเตรียมความพร้อมระหว่างเปิดภาคเรียนในระยะเตรียมการก่อนเกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ดังนี้
มิติ | มาตรการเตรียมความพร้อม |
---|---|
ความปลอดภัยจากการลดและป้องกัน ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน2.5 ไมครอน |
|
การเรียนรู้ |
|
การครอบคลุมนักเรียนนักศึกษาทั้ง นักเรียนนักศึกษา ที่มีความบกพร่องทาง สติปัญญา บกพร่องทางการเรียนรู้ บกพร่องด้านพฤติกรรมอารมณ์ บกพร่องทางการได้ยิน บกพร่องทางการพูด มี ภาวะสมาธิสั้นและเด็ก ออทิสติก รวมถึงนักเรียน นักศึกษาในพื้นที่ห่างไกล |
|
สวัสดิภาพและการคุ้มครอง |
|
นโยบาย |
|
การบริหารการเงิน |
|
แนวทางการปฏิบัติระหว่างเปิดภาคเรียนในระยะเกิดสถานการณ์ฝุ่นควัน
เมื่อช่วงที่สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน อยู่ในระดับที่เกินมาตรฐานและอาจจะมี ผลกระทบต่อสุขภาพของนักเรียน นักศึกษา (PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่ามากกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ เมตร (มคก./ลบ.ม.)) โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษากลุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาด ไม่เกิน 2.5 ไมครอน จึงกําหนดให้มีแนวปฏิบัติระหว่างเปิดภาคเรียน ในระยะเกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน โดยแบ่งเป็นแนวทางทางการปฏิบัติ สําหรับผู้บริหารสถานศึกษา/ผู้อํานวยการสถานศึกษา ครู/ผู้ดูแล นักเรียน นักศึกษา นักเรียน นักศึกษา/แกนนํานักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ดังนี้
แนวทางการปฏิบัติสําหรับผู้บริหารสถานศึกษา/ผู้อํานวยการสถานศึกษา
- ประกาศนโยบายและแนวปฏิบัติการป้องกันฝุ่นละอองขนาด ไม่เกิน 2.5 ไมครอน
- สื่อสารประชาสัมพันธ์การลดและป้องกันฝุ่นละอองขนาด ไม่เกิน 2.5 ไมครอนเกี่ยวกับนโยบายมาตรการแนวปฏิบัติ ให้แก่ครู นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง รวมถึงบุคลากรภายในสถานศึกษา
- มีมาตรการในการจัดการฝุ่นละอองขนาด ไม่เกิน 2.5 ไมครอนเพื่อลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ โดยถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เช่น การจัดการด้านความสะอาด รถโรงเรียนไร้ควันดํา บุคลากรภายใน สถานศึกษาลดหรือเลี่ยงกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองเพิ่มรวมทั้งจัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นสําหรับเด็กที่มีความเสี่ยง เช่น มีโรคประจําตัว เป็นต้น
- มีการกํากับติดตามการดําเนินงานตามมาตรการเพื่อป้องกันการเกิดฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนอย่างเคร่งครัด
- กรณีที่ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เกินมาตรฐานสถานศึกษาควรมีมาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ตามระดับความเข้มข้นของสถานการณ์ PM2.5 ทั้งนี้ อาจมีการพิจารณาการปิด สถานศึกษาความความเหมาะสมและดุลยพินิจของผู้บริหาร โดยอาจพิจารณาจากองค์ประกอบ 3 ด้าน ได้แก่ สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ลักษณะและสภาพแวดล้อมของสถานศึกษา และ สถานการณ์ด้านสุขภาพ รายละเอียดดังนี้
- สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก
- ลักษณะและสภาพแวดล้อมของสถานศึกษา เช่น อยู่ใกล้แหล่งกําเนิดของฝุ่นละออง ลักษณะอาคาร เรียนเป็นอาคารมีลักษณะเปิดโล่ง ไม่มีห้องที่สามารถจัดการให้นักเรียน นักศึกษาอยู่ในห้องปิดได้ ไม่ มีต้นไม้รอบ ๆ บริเวณสถานศึกษา ที่สามารถดักฝุ่นละอองได้ เป็นต้น
- สถานการณ์ด้านสุขภาพ เช่น มีนักเรียน นักศึกษาในสถานศึกษาที่มีอาการท่ีอาจเกี่ยวข้องกับการรับ สัมผัสฝุ่น PM2.5 เช่น แสบตา ตาแดง ผื่นแดง คันตามผิวหนัง ไอ หายใจลําบาก แสบจมูก เลือดกําเดา ไหล จํานวน 10 รายขึ้นไป
ทั้งนี้ อาจพิจารณายกเลิกการเรียนการสอนในระดับชั้นอนุบาลก่อน และหากสถานการณ์ PM2.5 ยังไม่ลดลงให้พิจารณายกเลิกการเรียนการสอนในระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ตามลําดับ
แนวทางการปฏิบัติสําหรับครู/ผู้ดูแลนักเรียน นักศึกษา
- ติดตามสถานการณ์ PM2.5 ในแอปพลิเคชัน Air4Thai หรือติดตามข่าวสารตามช่องทางต่าง ๆ ทุกวันเพื่อหาทางป้องกันให้กับนักเรียน นักศึกษา
- สื่อสารข้อมูลสถานการณ์มลพิษทางอากาศและวิธีการป้องกันตนเองแก่นักเรียน นักศึกษาทุกวัน และ สังเกตอาการนักเรียน นักศึกษา หากมีอาการผิดปกติ เช่น เคืองตา คันตา ตาแดง ให้ใช้น้ําสะอาดล้าง ดวงตา หลีกเลี่ยงการขยี้ตา และดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้หากอาการรุนแรงให้ไปพบแพทย์ทันที
- ควรดูแลเด็กนักเรียน นักศึกษาที่มีโรคประจําตัวอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลําบาก หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก ให้รีบพาไปพบแพทย์
- ควรดูแลเด็กให้หลีกเลี่ยงการทํากิจกรรมนอกอาคารในช่วงที่ PM2.5 อยู่ในระดับตั้งแต่สีเขียว (26 - 37 มคก./ลบ.ม.) ขึ้นไป เช่น การเข้าแถวหน้าเสาธง การออกกําลังกายกลางแจ้ง
- จัดเตรียมสํารองหน้ากากป้องกันฝุ่นในสถานศึกษาให้พร้อม
- ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิดเพื่อป้องกันฝุ่นละออง
- งดกิจกรรมที่ก่อให้เกิด PM2.5 เช่น การเผาใบไม้ เผาขยะ เป็นต้น
- ขอความร่วมมือผู้ปกครองจอดรถรับ-ส่งนอกสถานศึกษาหากจําเป็นต้องนํารถเข้ามาจอดให้ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถ
- ขอความร่วมมือร้านค้าแผงลอยปิ้งย่างโดยใช้เตาไร้ควัน
- ปลูกต้นไม้บริเวณสถานศึกษา หรือจัดสวนแนวต้ัง เพื่อดักฝุ่นละอองและมลพิษอากาศ
แนวทางการปฏิบัติสําหรับนักเรียน นักศึกษา/แกนนํานักเรียน นักศึกษา
- สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นทุกคร้ังเมื่ออยู่ในท่ีโล่งแจ้ง
- ควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยอันใหม่ทุกวันและทิ้งเมื่อพบว่าหน้ากากชํารุดหรือภายในหน้ากากสกปรก
- หากค่าฝุ่นสูงให้งดการทํากิจกรรมนอกอาคารเรียนหรืออยู่นอกห้องเรียนให้น้อยท่ีสุด
- สังเกตอาการตนเอง หากพบว่ามีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลําบาก หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก รีบแจ้งครู/ผู้ดูแลนักเรียน นักศึกษา หรือไปห้องพยาบาล
- จัดเวรทําความสะอาดห้องเรียนเพื่อลดการสะสมของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน
- แกนนํานักเรียนนักศึกษาเป็นนักเรียนนักศึกษาอาสาสมัครช่วยดูแลสุขภาพเพื่อนนักเรียนนักศึกษามีบทบาทหน้าท่ีดังนี้
- ติดตามสถานการณ์ PM2.5 ในแอปพลิเคชัน Air4Thai หรือติดตามข่าวสารตามช่องทางต่าง ๆ
- เฝ้าระวังสังเกตอาการของเพื่อนนักเรียน นักศึกษา หากพบว่ามีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลําบาก หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก ให้รีบแจ้งครู/ผู้ดูแลนักเรียน นักศึกษา หรือพาไปห้องพยาบาล
- ตรวจดูความเรียบร้อยของเพื่อนนักเรียน นักศึกษา ต้องสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น หากพบนักเรียนนักศึกษาไม่ได้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น ให้แจ้งครู/ผู้ดูแลนักเรียน นักศึกษา เพื่อจัดหาหน้ากากสํารองให้สวมใส่
- จัดกิจกรรมสื่อสารให้ความรู้คําแนะนําในการดูแลและป้องกันตนเองแก่เพื่อนนักเรียน นักศึกษา เช่นบอร์ดประชาสัมพันธ์ มุมความรู้ ป้ายแนะนําต่าง ๆ เป็นต้น
- จัดเวรทําความสะอาดห้องเรียนท่ีใช้ร่วมกัน เพื่อลดการสะสมของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน
- สอดส่องกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่น PM2.5 เช่น ติดเครื่องยนต์ขณะจอด เผาขยะ ใช้เตาถ่านปรุงประกอบอาหาร หากพบกิจกรรมดังกล่าวให้แจ้งครู/ผู้ดูแลนักเรียน นักศึกษา
- เป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน เช่น สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นเมื่อออกนอกอาคาร โดยถือปฏิบัติเป็นสุขนิสัยกิจวัตรประจําวันอย่างสม่ำเสมอ
แนวทางการปฏิบัติสําหรับผู้ปกครอง
- ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลควรติดตามสถานการณ์ PM2.5 ในแอปพลิเคชัน Air4Thai หรือติดตามข่าวสารตาม ช่องทางต่าง ๆ
- ควรดูแลเด็กให้หลีกี่ยงการทํากิจกรรมนอกบ้านในช่วงท่ี PM2.5 อยู่ในระดับตั้งแต่สีเขียว (26 - 37 มคก./ลบ.ม.) ขึ้นไป หากจําเป็นให้ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันและอยู่นอกอาคารเท่าท่ีจําเป็น
- จัดหาหน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่น PM2.5 ท่ีเหมาะสําหรับเด็กไว้ท่ีบ้าน
- ให้เด็กสวมหน้ากากอนามัยหากต้องออกนอกอาคารขณะท่ีเดินทางเป็นต้น
- ควรให้เด็กดื่มน้ําสะอาดให้เพียงพอ 8-10 แก้วต่อวัน
- ควรปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิดและเปิดพัดลมให้อากาศหมุนเวียน
- ปลูกต้นไม้บริเวณบ้านเพื่อดักฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศ
- ลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิด PM2.5 เช่น จุดธูป เผากระดาษเงินกระดาษทอง ปิ้งย่างที่ทําให้เกิดควัน การเผาใบไม้ เผาขยะ เป็นต้น
- ไม่จอดรถและติดเครื่องยนต์เป็นเวลานานในบริเวณบ้าน
- สังเกตอาการบุตรหลาน โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจําตัวอย่างใกล้ชิด หากมีอาการไอจามผิดปกติ น้ํามูกไหล หายใจลําบาก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
มาตรการในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ สําหรับสถานศึกษาตามระดับความเสี่ยง
ระดับ PM2.5 (มคก./ลบ.ม.) | มาตรการสําหรับสถานศึกษา |
---|---|
0–25
ดีมาก |
นักเรียน นักศึกษาทุกคน : ทํากิจกรรมได้ตามปกติ |
26-37
ดี |
|
38-50
ปานกลาง |
ครู : สื่อสารข้อมูลสถานการณ์มลพิษทางอากาศและวิธีการป้องกันตนเองแก่นักเรียน นักศึกษาทุกเช้า และสังเกตอาการนักเรียนนักศึกษา หากมีอาการผิดปกติ เช่น เคือง ตา คันตา ตาแดง ให้ใช้น้ําสะอาดล้างดวงตา หลีกเลี่ยงการขยี้ตา และดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้หากอาการรุนแรงให้ไปพบแพทย์ทันที |
51-90
เริ่มมีผลกระทบต่อ สุขภาพ |
ครู : สื่อสารข้อมูลสถานการณ์มลพิษทางอากาศและวิธีการป้องกันตนเองแก่นักเรียน นักศึกษาในช่วงเช้า / บ่าย และสังเกตอาการนักเรียน นักศึกษา หากมีอาการผิดปกติ เช่น เคืองตา คันตา ตาแดง ให้ใช้น้ําสะอาดล้างดวงตา หลีกเลี่ยงการขยี้ตา และดูแล อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้หากอาการรุนแรงให้ไปพบแพทย์ทันที |
91 ขึ้นไป
มีผลกระทบต่อ สุขภาพ |
ครู : สื่อสารข้อมูลสถานการณ์มลพิษทางอากาศและวิธีการป้องกันตนเองแก่นักเรียน นักศึกษาในช่วงเช้า/ เที่ยง/ บ่าย และสังเกตอาการนักเรียน นักศึกษาหากมีอาการ ผิดปกติ เช่น เคืองตา คันตา ตาแดง ให้ใช้น้ําสะอาดล้างดวงตา หลีกเลี่ยงการขยี้ตา และดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้หากอาการรุนแรงให้ไปพบแพทย์ทันที |